เกาะพีพี รวมจุดเช็คอิน เที่ยว 2 วัน 1 คืน ให้ทริปของคุณสนุกสุดเหวี่ยงกว่าทริปไหน

เกาะพีพี

เกาะพีพี สวรรค์ของคนรักการดำน้ำเป็นทะเลภาคใต้ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ เพราะที่นี่มีโลกใต้น้ำที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นแนวปะการังหลากสี หรือหมู่ปลาน้อยใหญ่ใต้น้ำทะเลเขียวมรกตน่าหลงใหล วันนี้ Tribe จะพาคุณไปตะลุย 5 จุดเช็คอินเกาะพีพี ที่มีบรรยากาศดี และเรื่องราวความเป็นมาที่น่าสนใจ เพื่อการพักผ่อนชิลๆ ในวันหยุด 2 วัน 1 คืน นอกจากนั้นแล้ว ยังมีทริคในการไปท่องเที่ยวเกาะพีพีทิ้งท้าย ให้ทริปของคุณสนุกแบบสุดเหวี่ยงยิ่งกว่าทริปไหน

ปักหมุด 5 จุดเช็คอินเกาะพีพี ไปเที่ยวต้องไม่พลาด

1. เรือจมคิงครุยเซอร์ (King Cruiser)

เรือจม King Cruiser เป็นเรือเฟอร์รี่ที่เคยวิ่งอยู่ระหว่างภูเก็ต และเกาะพีพี ซึ่งจมลงในปี 2540 จากการชนกับกองหินมูสังที่อยู่ใกล้เคียง โดยปัจจุบันซากเรือลำนี้ได้กลายมาเป็นจุดดำน้ำที่มีความลึกอยู่ที่ 14-32 เมตร แต่จุดดำน้ำแห่งนี้ ก็ไม่เหมาะกับนักดำน้ำมือใหม่นัก เพราะที่นี่มีกระแสน้ำที่ค่อนข้างรุนแรง จึงอาจจะทำให้การมองเห็นใต้น้ำเบลอไปบ้าง ไหนจะยังมีขอบเหล็กคมๆ ของตัวเรือ และตาข่ายดักปลาอีก แต่ถ้าใครเป็นโปรท่องเที่ยวสายดำน้ำล่ะก็ นี่เป็นจุดเช็คอินที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนเกาะพีพีจริงๆ

โดยเมื่อคุณดำน้ำลงไปจะไม่เห็นซากเรือเป็นอย่างแรก แต่จะเห็นฝูงปลาฝูงใหญ่ยักษ์นานาพันธ์ุ ซึ่งอาศัยตัวเรือเป็นบ้านแนวปะการังลาดเอียง ซึ่งขึ้นอยู่ตามซากเรือ ทำให้ที่นี่กลายเป็นอีกจุดเช็คอินสำหรับการดำน้ำที่ทุกคนชื่นชอบ โดยฝูงปลาที่พบได้ที่นี่มีอยู่หลากหลายชนิด ตั้งแต่ปลาทูน่า ปลากะรัง ปลากระพง ปลาสากหางเหลือง ปลาสิงโต ปลาไหลมอเรย์ ปลาแมงป่อง และยังมีกุ้งมังกรอีกด้วย นอกจากนั้นแล้ว ภาพวิวของซากเรือที่ผุกร่อนตามกาลเวลาจนได้เห็นด้านในของตัวเรือ ก็เป็นภาพที่สวยงามแปลกตาน่าดู

2. กองหินมูสัง (Shark Point)

Shark Point ที่ชาวบ้านรู้จักกันในชื่อกองหินมูสัง หรือกองหินสันฉลามมีลักษณะเป็นกองหินขนาดใหญ่ 3 กองเชื่อมต่อกัน โดยกองที่สูงที่สุดสูงแค่ปริ่มน้ำ และมีประภาคารตั้งอยู่ ที่นี่เป็นจุดดำน้ำที่มีความลึกแค่ประมาณ 5-28 เมตร เหมาะกับนักดำน้ำมือใหม่ที่มาเยือนเกาะพีพี โดยกองหินถูกปกคลุมไปด้วยปะการังสีสดใส เคียงคู่กับหมู่ฝูงปลานานาชนิด และมีสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กจำนวนมาก

ซึ่งจุดเด่นของที่นี่คือมีการรายงานว่าพบฉลามอยู่บ่อยๆ ตามชื่อจุดเช็คอิน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวฉลามหูดำที่ไม่ดุร้าย หรือฉลามเสือดาวที่มีการพบบ่อยที่สุด รวมทั้งยังมีกระเบนราหู ปลาจิ้มฟันจระเข้ปีศาจ และปลากบหลากหลายสีสัน ซึ่งนี่แหละคือหลักฐานแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของเกาะพีพี ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่คุณห้ามพลาด

3. จุดชมวิว (View Point)

เดินลัดเลาะจากจากท่าเรือผ่านแหล่งชุมชนอ่าวต้นไทรไปยังจุดชมวิวของเกาะพีพี จะได้พบกับทัศนียภาพอันงดงามของเวิ้งอ่าวต้นไทร และอ่าวโละดาลัมที่เป็นชายหาดรูปทรงเว้า ซึ่งมีทิวมะพร้าวคั่นกลาง อยู่เคียงคู่กับทิวเขาหินปูน และผืนมหาสมุทรสีเขียวมรกต ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเกาะพีพี จุดนี้มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 186 เมตร จึงทำให้การเดินขึ้นไปก็ไม่ได้ง่าย หรือยากเกินไป เพราะมีป้ายบอกเส้นทางอยู่ตลอดทาง

โดยช่วงแรกของหนทางในการไปจุดชมวิวเกาะพีพีจะเป็นบันได และต่อด้วยทางดินที่ไม่ชันมาก ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงที่หมาย บอกเลยว่าถึงจะต้องเหนื่อยเดินบ้าง แต่รับรองว่าถ้าได้ไปชมพระอาทิตย์ตกดิน และวิวเวิ้งอ่าวคู่ ซึ่งมีความสวยงามติดอันดับโลกที่จุดชมวิว จะต้องประทับใจ และคุ้มค่า จนความเหนื่อยล้าหายไปเป็นปลิดทิ้งแน่นอน

4. ถ้ำไวกิ้ง (Viking Cave)

ถ้ำไวกิ้งที่มีชื่อสะดุดหูฟังดูเต็มไปด้วยการผจญภัย หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าถ้ำพญานาค เป็นโถงขนาดใหญ่ ซึ่งมีความสูงกว่า 80 เมตร ตัวถ้ำตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะพีพีเล โดยไฮไลท์ของจุดเช็คอินนี้คือ ที่นี่เป็นถ้ำกลางทะเลที่มีหินงอกหินย้อยสวยงามมากมาย และหินรูปร่างเศียรพญานาค อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้าน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเรียกถ้ำพญานาค นอกจากนี้แล้วทางทิศตะวันออก และทิศใต้ของถ้ำยังพบภาพเขียนเรือสำเภาหัวงอนอายุกว่าร้อยปีบนผนังถ้ำ อันเป็นที่มาของชื่อถ้ำไวกิ้ง ที่คาดว่าอาจเป็นนักเดินทาง หรือโจรสลัดเขียนเอาไว้

ความพิเศษอีกข้อหนึ่ง ที่ทำให้ถ้ำไวกิ้งเป็นจุดเช็คอินของเกาะพีพีคือ ที่นี่เป็นแหล่งผลิตของรังนกนางแอ่น ที่มีเจ้าของสัมปทานเป็นบริษัท Scotch Thailand เพื่อนำไปผลิตเป็นรังนกที่เราซื้อทานกันเป็นขวดๆ นี่แหละ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชมถ้ำไวกิ้งได้ แค่บริเวณหน้าปากถ้ำเท่านั้น เพื่อเป็นการป้องกันการรบกวนเหล่านกนางแอ่นในการทำรัง และวางไข่ ยิ่งไปกว่านั้นถ้ำนี้ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ชื่อดังเรื่อง The Beach ที่ออกฉายในปี 2000 ซึ่งนำแสดงโดยนักแสดงชื่อดังอย่างลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ (Leonardo DiCaprio) อีกด้วย

5 .อ่าวปิเละ ลากูน (Pileh Lagoon)

ภาพน้ำทะเลสีเขียวมรกต สะท้อนแสงวิปวับท่ามกลางภูผาหินปูนสูงชันโอบนี่แหละ คือความน่าประทับใจของจุดเช็คอินอ่าวปิเละ ลากูนแห่งเกาะพีพีที่ใครๆ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสวยแบบกินขาด ซึ่งคำว่าลากูน (Lagoon) นี้ถูกใช้เรียกแอ่งที่มีลักษณะกว้างจนเกือบเป็นรูปทรงกลม ซึ่งมีน้ำทะเลไหลผ่านเข้าถึง และมีถ้ำเชื่อมต่อกับทะเลภายนอก

ทำให้ถ้าจะมาชมความสวยงามภายในทะเลสาบอันเร้นลับแห่งนี้ล่ะก็ จะต้องนั่งเรือขนาดเล็กผ่านถ้ำเข้าไปเท่านั้น ที่นี่มีบริการเรือให้เช่าของชาวบ้านที่จะพาคุณไปถ่ายรูปชิลๆ หรือถ้าอยากพายเรือเองเรือคายัค เรือสปีดโบ้ท เเละเรือหางยาวก็มีใช้เช่าเช่นกัน

โดยอ่าวปิเละ ลากูนเป็นสถานที่มีน้ำทะเลที่นิ่งสงบ ทำให้สามารถว่ายน้ำได้ง่าย เพราะคลื่นไม่แรง แถมยังสามารถดำน้ำลงไปชมฝูงปลา และหมู่ปะการังใต้น้ำได้ชัดเจน เพราะน้ำใสสุดๆ มีทั้งปะการังสมอง ปะการังจาน และปะการังเขากวาง แค่เห็นภาพสวยๆ ก็ทำเอาอยากไปเที่ยวซักครั้งแล้ว

กลับสู่สารบัญ

แพ็คกระเป๋าเตรียมตัวไปเที่ยวเกาะพีพีช่วงไหนปังสุด

ใครอยากไปกระโดดน้ำทะเลสีเขียวมรกตสดใสของเกาะพีพีแล้วบ้าง บอกเลยว่าช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการมาเที่ยวหมู่เกาะพีพี จะอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน ส่วนช่วงที่ฝนชุกทำให้ไม่ค่อยเหมาะกับการไปเที่ยว จะอยู่ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคม ส่วนเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคม แม้จะไม่ใช่ช่วงฤดูท่องเที่ยว แต่ก็มีอากาศอบอุ่น แถมยังมีคนน้อย ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูงด้วย

นอกจากเรื่องเวลาในการเดินทางไปท่องเที่ยวแล้ว อีกเรื่องที่ทุกคนไม่ควรลืมในการไปเที่ยวเกาะพีพีก็คือ การเตรียมตัวก่อนไปทริปสุดปัง ไหนๆ จะได้ไปเที่ยวสถานที่สวยๆ บรรยากาศดีๆ ทั้งทีก็ต้องถ่ายรูปเก็บความทรงจำกันหน่อย ขอแนะนำให้คุณจัดเตรียมชุดพิเศษ สำหรับการไปทะเลโดยเฉพาะ แบบจัดเต็มในสไตล์ของคุณ จะได้ถ่ายรูปออกมาปังๆ แบบมั่นใจในทุกมุม

รองเท้าไปทะเลที่จะทำให้ทริปเกาะพีพีของสาวๆ เริ่ดยิ่งขึ้น

นอกจากชุดแต่งตัวไปทะเลสวยๆ แล้ว รองเท้าไปทะเลที่จะทำให้ความงามของคุณเปล่งประกายมากกว่าเดิมก็สำคัญ เพราะรองเท้าไปทะเลดีๆ จะช่วยเพิ่มความสวยมั่นใจและความสะดวกสบายให้กับคุณ เราขอแนะนำแบรนด์รองเท้าดีไซน์สวย โดดเด่น ที่ผลิตมาเพื่อทริปไปทะเลสุดพิเศษของคุณ โดยเฉพาะอย่างแบรนด์ Tribe แบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการดีไซน์ และการใช้งานจริง ทางแบรนด์เข้าใจถึงสรีระเท้าที่แตกต่างกันของสาวๆ รองเท้าไปทะเลที่ได้ออกมาสู่สายตาชาวโลกของ Tribe จึงเหมาะกับทุกคน ไม่ว่าคุณจะมีเท้าแบบไหนก็สามารถเป็นตัวเองที่สวยมั่นใจ และสบายได้ในเวลาเดียวกัน

กลับสู่สารบัญ

กิจกรรมน่าสนใจบนเกาะพีพี

นอกจากการดำน้ำ ซึ่งเป็นไฮไลต์ของเกาะพีพีแล้ว บนเกาะก็ยังมีอีกหลายกิจกรรม ที่คุณสามารถไปใช้เวลาสนุกสนานกับมันได้ ไม่ว่าจะเป็นการปีนผา การพายเรือคายัคเดินชมวิวรอบเกาะ หรือจะไปชมการแสดงควงกระบองที่ร้านอาหารยามค่ำคืน ก็เป็นอีกกิจกรรมยอดฮิตของการไปเที่ยวทะเล

1. ปีนผา

หน้าผาสูงชันที่รอท้าทายนักปีนเขา ที่ปีกทางด้านเหนือของเกาะพีพีนี่แหละ กิจกรรมยอดฮิตพอๆ กับการดำน้ำเพราะเกาะพีพีดอนเป็นสถานที่ปีนผาแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งถ้าสังเกตดูจะพบว่ามีนักปีนผาจากทั่วโลกทำตำแหน่งต่างๆ ไว้บนหน้าผาเอาไว้ จนทุกวันนี้ตำแหน่งเหล่าก็ยังถูกใช้เป็นแนวทางในการปีนผาในปัจจุบันอยู่ ถือว่าที่เกาะพีพีนี่มีครบ ตอบโจทย์ทั้งคนรักทะเล และภูเขาเลย

2. ล่องเรือสำรวจรอบเกาะ

การพายเรือเล็กไปสำรวจหาดรอบเกาะพีพี และเข้าไปในอ่าวปิเละ ลากูนถือเป็นกิจกรรมแรกที่หลายๆ คนเลือกที่จะทำเลย เพราะเมื่อมาถึงก็จะได้ชมทัศนียภาพที่สวยงาม หลากหลาย ของหมู่เกาะพีพีอย่างเต็มที่ไปด้วย ได้ถ่ายรูปสวยๆ ติดไม้ติดมือกลับไปด้วยนั่นเอง

3. ปาร์ตี้ชมการแสดงควงกระบอง และพ่นไฟ

สำหรับสายปาร์ตี้ บอกเลยว่า การไปนั่งร้านอาหารดินเนอร์ตอนกลางคืน นั่งฟังเพลงชิลๆ แล้วรับลมทะเลสบายๆ นี่แหละอีกหนึ่งไฮไลท์ของทริปไปเที่ยวทะเลเลย จะบอกว่าร้านอาหารหลายๆ ร้านในเกาะพีพีเขามีจัดการแสดงควงกระบองและพ่นไฟสวยๆ ด้วยนะ บอกเลยว่าการชมการแสดงสุดอลังการอันน่าตื่นตาตื่นใจ คู่กับการดินเนอร์ยามค่ำคืนนี่แหละ เป็นที่นิยมสุดๆ เรียกได้ว่าเป็นสีสันยามค่ำคืนที่ทุกคนไม่ควรพลาด เมื่อได้ไปเยือนเกาะพีพี

4. Snorkelling หรือการดำน้ำตื้น

เมื่อพูดถึงการดำน้ำ หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องที่ดูผจญภัย โดยเฉพาะกับคนที่ยังไม่เคยดำน้ำเลยยังไม่อยากดำน้ำไปลึกๆ การดำน้ำตื้นก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะ สำหรับกับคนที่ไม่มีประสบการณ์ดำน้ำมาก่อน เพราะสามารถอิ่มเอิบไปกับการดำน้ำดูปะการัง และหมู่ปลาหลากสายพันธุ์ได้เหมือนกับการดำน้ำลึก หรือจะนั่งพักผ่อนริมหาดทรายขาวๆ และเล่นน้ำริมทะเลสีสวยพลางๆ ก็ดี แต่ถ้าอยากได้ความแปลกแหวกแนวกว่าเดิม ก็ต้องไปที่ Shark Point จุดดำน้ำตื้นยอดฮิตของเกาะพีพีที่มีครอบครัวปลาฉลามอาศัยอยู่ กับปลาหลากหลายสายพันธุ์ให้คุณได้ชมได้โดยที่ไม่ต้องดูน้ำไปลึกๆ แต่อย่างใด

กลับสู่สารบัญ

สรุปทิ้งท้าย

ต้องบอกว่า เมืองไทยเต็มไปด้วยท้องทะเลที่ทะเลสวยงามจริงๆ ซึ่งนอกจากเกาะพีพี สวรรค์ของคนรักการดำน้ำที่น่าไปเที่ยวสุดๆ แล้ว บทความหน้าเราจะพาสาวๆ Tribe ไปพบกับมัลดีฟส์เมืองไทย หรือเกาะพยามนั่นเอง จะสวยงามน่าไปเที่ยวสู้เกาะพีพี หรือไม่ ต้องติดตามชม