ไทย
อังกฤษแฟชั่นไลฟ์สไตล์
รองเท้าส้นสูงผู้หญิง เลือกแบบไหน ให้เหมาะกับตัวเอง และใส่ได้สบาย ไม่มีเมื่อย
ต.ค.
หนึ่งในไอเทมจำเป็นสำหรับสาวๆ ที่ช่วยเสริมบุคลิกให้มั่นใจ และกังวลได้ในคราวเดียวกันอย่างรองเท้าส้นสูงผู้หญิง ถ้าเลือกดีก็มีแต่คำว่าปัง แต่บางครั้งถึงขั้นพังก็มี เพราะไม่ใช่แค่ไม่สวย หรือใส่ไม่สบายเท้า แต่ยังเสี่ยงเกิดปัญหาสุขภาพได้ ตั้งแต่ปวดเมื่อยไปจนถึงเท้าผิดรูปเข่าเสื่อมก่อนวัยลาม ไปยันปวดหลังเลยทีเดียว Tribe เองเข้าใจปัญหาเหล่านี้ที่สาวๆ พบเจอเป็นอย่างดี จึงขอพาทุกคน มาร่วมไขคำตอบเกี่ยวกับการเลือกรองเท้าส้นสูงแบบไหน ให้ปัง ใส่ยังไงให้ไม่เมื่อย ไปพร้อมกัน
รองเท้าส้นสูงสำคัญกับสาวๆ ยังไง
ก่อนที่จะไปดูเทคนิคการเลือกสาวๆ บางคนอาจจะยังสงสัยว่า “รองเท้าส้นสูงผู้หญิงจำเป็นขนาดนั้นเลยหรอ“ เชื่อว่าผู้หญิงกว่า 80% จะต้องตอบว่าแน่นอนโดยเฉพาะสาวๆ ในวัยทำงาน เพราะด้วยความที่สาวไทยมีความสูงเฉลี่ยอยู่ที่เพียง 158 ซม. รองเท้าประเภทนี้ก็จะช่วยปรับบุคลิกภาพให้สวย ดูดี มีสง่าราศี พรางตาให้สาวๆ เป็นคนสูงเพรียวได้ แบบไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม ลักษณะการเดินจะต้องคอยปรับสมดุล เพื่อไม่ให้เซ หรือเสี่ยงจะล้ม ทำให้ต้องพยายามเดินตัวตรงไปโดยปริยาย เลยเป็นไอเทมที่ตอบโจทย์ในวัยทำงาน และวันสำคัญ เช่น ต้องสวมเดรสออกงานราตรีงานสำคัญงานพิธีการฯลฯ เสียดายเพียงหากเลือกรองเท้าไม่ดีก็มีปัญหาต่อลุค และสุขภาพเท้าขาเข่า ไปจนถึงหลังในระยะยาวได้เหมือนกัน
เคล็ด (ไม่) ลับ กับการเลือกรองเท้าส้นสูงผู้หญิง ให้ดีต่อสุขภาพ
อย่างที่ได้บอกไป ในหัวข้อก่อนว่าหากเลือกรองเท้าส้นสูงผู้หญิงไม่ดี ก็เสี่ยงมีปัญหาที่ไม่ใช่แค่ลุค แต่กระทบกับสุขภาพของสาวๆ ได้ Tribe จึงขอมาบอกต่อเคล็ด (ไม่) ลับเกี่ยวกับการเลือกรองเท้าส้นสูงให้สวยได้ แถมไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพสาวๆ กัน
1. เลือกรูปทรง และขนาดที่เหมาะกับทรงเท้า
เรื่องแรกที่ควรพิจารณาไม่ใช่แค่กับการเลือกรองเท้าส้นสูงผู้หญิง แต่เป็นรองเท้าทุกประเภทคือ การเลือกรูปทรง และขนาดรองเท้าที่เหมาะสมกับทรงเท้าของคุณ เพราะความแคบคับรัดอึดอัด อาจส่งผลต่อสุขภาพการเดิน เพราะงั้นอย่าลืมคำนึงเรื่องคุณใส่ไซส์อะไร ทรงเท้าเป็นแบบไหนก่อนเลือกเสมอ เช่น บางคนหน้าเท้ากว้างนิ้วเท้าโค้ง หรือใหญ่ควรใส่ใจในการเลือกทรงรองเท้าเป็นพิเศษฯลฯ และถ้าเป็นไปได้ควรลองสวมใส่ และเดินจริงในระดับหนึ่งก่อนตัดสินใจซื้อ (Tribe ขอแนะนำให้ลองสวมในช่วงเย็นประมาณ 4-6 โมงจะได้ขนาดเท้าที่เราขยายมากที่สุด เพราะในแต่ละช่วงเวลาของวันขนาดเท้าเราจะไม่เท่ากัน)
2. ความสูงของส้น
ถึงจะเรียกว่ารองเท้าส้นสูงผู้หญิงแต่ความสูงของแต่ละคู่ไม่เท่ากัน ซึ่งคุณสามารถเลือกเองได้ว่า จะเลือกความสูงที่ประมาณเท่าไหร่ ให้เหมาะกับตัวเองมากที่สุด เพราะยิ่งสูง และส้นของรองเท้ามีความเรียวเล็กลงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งผลักให้สาวๆ ต้องทิ้งน้ำหนักตัวไปที่หัวเท้ามากขึ้น ทำให้เกิดอาการปวดเมื่อย และส่งผลต่อสุขภาพด้านอื่นๆ ได้มากขึ้น รวมถึงบางคนที่ไม่เคยใส่ หรือไม่ถนัดเกิดปัญหาเดินแบบเสียบุคลิกเซไปเซมา ตลอดแถมเพิ่มโอกาสทำให้เกิดการบาดเจ็บ หรือเกิดอุบัติเหตุขณะสวมใส่เช่นล้มข้อเท้าแพลง ฯลฯ ได้เลย
Tribe ขอแนะนำตัวอย่างการเลือกความสูงของส้นเพิ่มเติม
- ส้นสูงประมาณ 2 นิ้ว : เลือกประเภทรองเท้าส้นสูงได้หลายแบบ ไม่ว่าจะปลายแหลมส้นหนาส้นตึกฯลฯ เนื่องจากมักไม่ค่อยพบเจอปัญหาปวดเมื่อยระหว่างวัน แม้แต่มือใหม่ก็สามารถลองใส่ได้สบาย
- ส้นสูงประมาณ 3 นิ้ว : ความสูงยังอยู่ในระดับที่เดินสบาย สามารถใส่ทำงานทุกวันได้ ไม่มีปัญหาหลังเลิกงานจะใส่ไปเที่ยวต่อด้วยก็ได้
- ส้นสูงประมาณ 4 นิ้ว : ความสูงในระดับนี้ขึ้นไปจะเริ่มยากกับมือใหม่ แต่ก็สามารถฝึกได้ไม่มีปัญหา แต่จะค่อนข้างเหมาะกับโอกาสพิเศษอย่างการไปงานราตรี หรือปาร์ตี้ซะมากกว่า จะหยิบมาใช้ในชีวิตประจำวัน
- ส้นสูงประมาณ 5 นิ้วขึ้นไป : ความสูงระดับนี้ควรเลือกแบบ และวัสดุที่มีการซัพพอร์ตเท้าเป็นอย่างดี มือใหม่ควรลองสวมก่อนว่าสามารถใส่ได้ หรือไม่เวลาเดินแล้วสะกดสายตา เพราะว่าคนอื่นสงสัยใส่ได้อย่างไร
นอกจากการดูความสูงของรองเท้าที่เหมาะสมกับสุขภาพแล้ว อย่าลืมเลือกตามส่วนสูงของตัวเองด้วย เพราะความสูงที่เหมาะสมควรปรับบุคลิกของคุณให้ดูดีมากขึ้น เช่น หากสาวๆ เป็นคนสูงมากอยู่แล้ว อาจไม่จำเป็นที่จะต้องใส่ส้นสูงแบบสูงปรี๊ดจนเกินไป แต่เน้นเลือกที่ทรง และการปรับบุคลิกให้เหมาะสมจะดีกว่าฯลฯ
3. วัสดุ และการตัดเย็บ
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ สำหรับการเลือกรองเท้าส้นสูงผู้หญิงก็คือ วัสดุที่นำมาใช้ และการตัดเย็บ เนื่องจากการกระจายน้ำหนักเวลาเหยียบ จะไม่ได้มีความสมดุลอย่างรองเท้าประเภทอื่น จะเห็นได้จากฉากในหนัง หรือประสบการณ์จริงของสาว ๆแต่ละคนว่าส้นสามารถหักได้เสมอถ้าสาวๆ กดน้ำหนักลงไปแบบไม่สมดุล รวมถึงการคลุม หรือรัดข้อเท้าทำได้ไม่ดี ทำให้หลุดออกจากเท้าระหว่างเดิน หรือเดินได้ไม่ถนัดนอกจากนี้การเลือกวัสดุ และการตัดเย็บรองเท้าส้นสูงดีๆ จะมีการรองรับซัพพอร์ตสุขภาพฝ่าเท้าได้เป็นอย่างดีอย่างรองเท้าหนังส้นสูงของ Tribe ที่เลือกใช้หนังแกะแท้ 100% และรองรับบริเวณส้นด้วยไม้ให้ความแข็งแรงทนทาน พร้อมซัพพอร์ตทุกการสวมใส่สัมผัสสบายเท้าทุกการเดิน
4. ประเภทรองเท้าส้นสูง
ทราบ หรือไม่ว่า รองเท้าส้นสูงผู้หญิงสามารถแบ่งประเภทแยกย่อยออกไปได้อีก ซึ่งคุณสามารถเลือกให้เหมาะกับตัวเอง และการใช้งานได้ตามตัวอย่างประเภทที่ Tribe นำมาฝากดังนี้
- รองเท้าส้นเข็ม : หนึ่งในประเภทรองเท้าส้นสูงผู้หญิง ที่ได้รับความนิยมมากด้วยความที่ส้นเรียวเล็กแหลมดั่งเข็ม ทำให้รองเท้าประเภทนี้ดูสวยทันสมัย เหมาะกับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ เช่น สาวออฟฟิศใส่ในวันทำงาน หรือจับมาแมตช์คู่กับชุดเดรสไปงานราตรีฯลฯ แม้ว่าจะให้ความสวยงามเสริมบุคลิกได้ดี แต่รองเท้าประเภทนี้มักไม่เหมาะกับมือใหม่ และไม่สามารถซัพพอร์ตเท้าได้ดี เนื่องจากน้ำหนักทั้งตัวจะถูกถ่ายเทไปที่ส่วนหน้าของเท้า
- รองเท้าส้นตึก : รองเท้าส้นสูงผู้หญิงที่ปัจจุบันไม่ค่อยนิยมในหมู่สาวๆ เท่าไหร่นักด้วยความที่สันหนาทึบเหมือนเป็นแฟชั่นที่ล้าสมัย (เพราะเคยผ่านช่วงฮิตมากมาแล้ว) เหมาะกับการหยิบไปแมตช์กับชุดเดรสน่ารักๆ ไปเที่ยวสวยๆ ถึงหลายคนจะมองข้ามรองเท้าส้นสูงประเภทนี้ ไม่ว่าจะเพราะความฮิต หรือน้ำหนักของรองเท้าก็ตามแต่ต้องยอมรับว่า รองเท้าประเภทนี้ใส่สบาย และซัพพอร์ตร่างกายคุณได้อย่างสมดุลกว่ารองเท้าส้นสูงแบบอื่น
- รองเท้าส้นแบบโคน : หน้าตาจะใกล้เคียงกับส้นเข็ม แต่รองเท้าส้นสูงผู้หญิงส่วนปลายจะมีลักษณะที่เหมือนโคนด้านบนโค้งไล่ลงมาจะแหลมมากขึ้น ถือเป็นอีกทางเลือกที่ดีสำหรับสาวๆ ที่คิดว่าส้นเข็มยังไม่ใช่เพราะระดับความสวย และเสริมบุคลิกภาพยังคงมีความใกล้เคียงกัน แต่ดีกว่าที่กระจายน้ำหนักเวลาเดินได้ดีมากขึ้น ทำให้เดินสบายไม่เป็นภาระสุขภาพเท้า
- รองเท้าบูทส้นสูง : ส่วนใหญ่คนไทยชอบใส่อะไรที่สบายตัว อย่างรองเท้าเองก็ไม่อยากคลุมปิดเท้ามาก เพราะด้วยความที่ประเทศไทยเป็นเมืองร้อนอาจเกิดการอับ และส่งกลิ่นเหม็นจนเสียบุคลิกได้ รองเท้าบูทส้นสูงเลยไม่ได้รับความนิยมเท่าแบบสายรัด หรือคัทชูส้นสูง เลยมักจะถูกหยิบไปใส่เที่ยวต่างประเทศ หรือโอกาสพิเศษซะมากว่า
- รองเท้าส้นหนา : รองเท้าส้นสูงผู้หญิงที่มีลักษณะส้นหนาเหมือนสี่เหลี่ยมไม่แหลมเล็ก ดูสวยมีเอกลักษณ์แถมยังสวมใส่แล้วสบายเท้าเดินได้สบายตลอดวัน อย่างรองเท้าส้นสูงของ Tribe ที่นอกจากจะถูกดีไซน์ให้ออกมาสวยโดดเด่นมีสไตล์ พร้อมดึงดูดได้ทุกสายตา แล้วยังมีส้นไม้หนาในระดับเหมาะสมกระจายน้ำหนักระหว่างเดิน และทำกิจกรรมต่างๆ ได้เป็นอย่างดีไม่มีเมื่อย หรือบาดเจ็บเท้าแน่นอน
5. ดีไซน์สไตล์ที่ใช่
นอกจากหลายสิ่งที่ Tribe ได้แนะนำไปก่อนหน้านี้ เรื่องของดีไซน์สไตล์ที่ใช่ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะบางคนต้องหยิบรองเท้าส้นสูงผู้หญิงคู่นั้น มาสวมใส่ออกไปข้างนอกกันทุกวัน เพราะงั้นการดีไซน์ควรตอบโจทย์ที่คุณชอบมากที่สุด และบ่งบอกถึงรสนิยมความเป็นตัวเอง จะได้ใส่แล้วมั่นใจหยิบมาใช้งานได้หลายโอกาส หากคุณเลือกแบบที่ตัวเองยังไม่ชอบแล้ว ใครจะมาชอบแทนคุณเวลาใส่ก็ไม่มีความสุขสาวๆ จะยอมใจร้ายตัดตัวเลือกที่ตัวเองชอบเล็กๆ น้อยๆ แม้แต่รองเท้าเลยหรอ กลับกันเลือกแบบที่ตัวเองชอบแล้ว มีความสุขทุกครั้งที่ใส่ก็จะเสริมอารมณ์ และบุคลิกของคุณให้ดูดีขึ้นได้ไม่ยาก
เทคนิคเพิ่มเติม กับการเดินด้วยรองเท้าส้นสูงผู้หญิง ที่ดีต่อสุขภาพ
ใครที่ได้เคล็ด (ไม่) ลับเกี่ยวกับการเลือกรองเท้าส้นสูงผู้หญิงใส่สบายดีต่อสุขภาพเท้าไปแล้วอย่าพึ่งกด x ปิดบทความนี้เพราะ Tribe ยังมีเทคนิคดีๆ เพิ่มเติมสำหรับการเดินด้วยรองเท้าส้นสูงอย่างไร ให้ไม่ทำร้ายสุขภาพร่างกายกัน
1. แปะแผ่นซิลิโคน บริเวณใต้ส้นเท้า
สำหรับสาวๆ คนไหนที่กำลังเจอกับปัญหาเดินไม่สบายเท้า โดยเฉพาะบริเวณเท้าส่วนหน้า แล้วอยากกระจายน้ำหนักไปที่บริเวณส้นเท้า ให้สมดุลเดินได้สบายมากขึ้น ขอแนะนำให้เลือกรองเท้าส้นสูงผู้หญิงที่ถูกออกแบบมา ให้ซัพพอร์ตเท้าได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าคู่นั้นสวยไม่ไหวตัดใจไม่ลง หรือซื้อมานานแล้ว แต่ไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง ขอแนะนำให้หาแผ่นแปะซิลิโคนแบบที่นูนบริเวณตรงกลางมาติดบริเวณใต้ส้นเท้า เพราะจะช่วยดูดซับแรงกด พร้อมลดโอกาสปวดเมื่อย ที่มีโอกาสเกิดขึ้นระหว่างการเดินลง
2. ใส่รองเท้าส้นสูงผู้หญิง เฉพาะเวลาจำเป็น
สาวๆ ควรทำความเข้าใจก่อนว่า รองเท้าส้นสูงผู้หญิงส่วนใหญ่ ไม่ค่อยเหมาะกับการใช้งาน เพื่อสุขภาพซักเท่าไหร่ อย่างที่เราได้ย้ำเตือนไปในข้างต้น ยิ่งคนที่ไม่ได้เลือกแบบที่ซัพพอร์ตกับการใช้งานยิ่งไปกันใหญ่ เพราะงั้นวิธีหนึ่งที่จะช่วยพักเท้า ให้ไม่ต้องรับภาระหนักจนเกินไปก็คือ การลดเวลาในการใช้งานรองเท้าส้นสูงลง โดยอาจหยิบมาใส่เฉพาะช่วงเวลาจำเป็น เช่น ใช้เฉพาะเวลาเข้าทำงานในออฟฟิศ พอถึงโต๊ะทำงานก็ถอดออกเปลี่ยนเป็นรองเท้าอื่น หรือปล่อยเท้าเปลือยฯลฯ นอกจากนี้หากสะดวกจะพกรองเท้าติดรถไว้อีก 2-3 คู่สำหรับเปลี่ยนตามโอกาสการใช้งานภายในรถบ้างก็ได้
3. เดินจากส้นจรดปลายเท้า
ธรรมชาติของคนเรา เวลาเดินจะต้องเริ่มด้วยปลายเท้า แล้วค่อยวางส้นลง แต่พอใส่รองเท้าส้นสูงผู้หญิง แทบจะ100% ลงแต่ปลายเท้าไม่กล้าลงน้ำหนักที่ปลายเท้า ทำให้ภาระการรับน้ำหนักของสาวๆ ทั้งหมดตกไปอยู่ที่ปลายเท้า เลยขอแนะนำให้ฝึกเดินแบบลงส้นเท้าก่อน แล้วตามด้วยปลายเท้า เพราะไม่เพียงแต่เป็นการถนอมสุขภาพ แล้วยังช่วยปรับให้บุคลิกภาพระหว่างเดินของสาวๆ ดูดีมีสเน่ห์มากขึ้นด้วย
4. เดินเบาๆ
ยิ่งเดินแรงก้าวขากว้างๆ หรือวิ่งก็ยิ่งทำให้การลงน้ำหนักของเท้าเพิ่มมากขึ้นอีก วิธีลดการใช้เท้าขา และพยุงตัวได้ดีก็คือการพยายามเดินเบาๆ ก้าวขาน้อยๆ ไม่จำเป็นก็ไม่ควรรีบเดินเร็ว หรือวิ่ง เพื่อถนอมเท้าให้มากที่สุด ระหว่างสวมรองเท้าส้นสูงผู้หญิง นอกจากนี้อาจจะเอนตัวไปด้านหลังเล็กน้อย เพื่อชดเชย และเป็นการกำหนดน้ำหนักไปที่ส้นเท้าแบบทางอ้อม ราวกับบังคับให้คุณต้องปรับสมดุลการลงน้ำหนักไปที่ส้นเท้า และมีการแกว่งแขนซ้ายขวาไปมา เพื่อรักษาสมดุลการทรงตัวในการเดิน
5. ฝึกใส่รองเท้าส้นสูงก่อนเดินจริง
แม้ว่าจะไม่ได้สนับสนุนให้ใช้งานรองเท้าส้นสูงผู้หญิงบ่อยๆ ถึงขั้นสวมใส่ทุกวัน หรือทุกเวลาแต่ก็ต้องยอมรับว่าการหยิบมาฝึกเดินบ่อยๆ อย่างการใส่เดินภายในบ้าน ก่อนเอาไปใส่ออกงานจริงจะช่วยให้สาวๆ ที่สวมใส่เกิดการปรับตัวหาวิธีเดินที่ถนั ดและลดอาการปวดเมื่อยระหว่างการเดินได้พอสมควร รวมถึงมีโอกาสที่จะปรับท่าเดินให้สวยขึ้น และปลอดภัยมากขึ้น ด้วยการฝึกเดินภายในบ้านสาวๆ จะชินกับการสวมรองเท้าส้นสูงเวลาต้องเดินขึ้น-ลงบันได และการเดินบนพื้นที่ค่อนข้างลื่นพอสมควร
6. เสริมความแข็งแกร่งด้วยท่าออกกำลังกาย
การเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่เท้า และเรียวขาด้วยท่าออกกำลังกาย จะช่วยให้การหยิบรองเท้าส้นสูงผู้หญิงมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ปวดเมื่อยได้ง่ายเท่าคนที่ไม่เคยออกกำลังกาย ซึ่งสาวๆ ทุกคนก็สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยท่านั่งหนีบหนังสือยกขึ้น และปล่อยลงวันละ 15 นาที และยืนขึ้นเขย่งปลายเท้า แล้วยืนปกติสลับกันประมาณ 3-4 ชุดต่อวัน (ชุดละ 20 ครั้ง) เพียงเท่านี้ก็จะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้น พร้อมใส่รองเท้าส้นสูงได้ไม่ยาก
7. ปล่อยให้สะโพก และเข่า ได้เป็นอิสระ
สาวๆ หลายคนจะชอบเดินแบบเกร็งๆ เพราะกลัวโดนหาว่าจริตเยอะเกินไป พอสวมใส่รองเท้าส้นสูงผู้หญิง ยิ่งทำให้เดินแบบเกร็งจนปวดเมื่อยระบมเท้า และขาไปหมด เพราะงั้นขอให้ปล่อยสะโพก และเข่าระหว่างเดินให้เป็นอิสระ อย่าไปเกร็งจนต้องเดินแบบแข็งทื่อ เพราะกล้ามเนื้อจะตึงเครียดส้นเท้า ต้องใช้แรงกดมากขึ้น ท่าเดินดูไม่เป็นธรรมชาติ บุคลิกภาพเสีย แม้แต่การหยุดเดิน ก็ต้องใส่ใจด้วยการงอเข่าเพียงเล็กน้อย จะช่วยให้การหยุดเดิน มีความละมุนบรรเทาแรงกดบริเวณปลายเท้า
8. ผ่อนคลายขา และเท้าหลังใส่ส้นสูง
หลังจากสวมใส่รองเท้าส้นสูงผู้หญิงทุกครั้ง อย่าลืมใช้วิธีผ่อนคลายขา และเท้าตามที่ตัวเองสะดวกเสมอเช่น
- แช่เท้าในน้ำอุ่นผสมกับเกลือยิปซั่มประมาณ 15-30 นาที หลังจากนั้นก็ใช้ขวดน้ำแช่เย็นมากดนวด บริเวณขาอีกประมาณ 15 นาที ก็จะช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายลดอาการเกร็ง จนเกิดอาการปวดเมื่อยจากรองเท้าส้นสูงผู้หญิงได้
- ยืดเหยียดเส้นที่หดเกร็งให้ผ่อนคลาย อย่างการยืนห่างกำแพงระดับนึง แล้วโน้มตัวเอามือยันกำแพง โดยที่เท้าแนบติดกับพื้นทั้งฝ่าเท้าค้างไว้ 10-30 วินาทีสลับกับการยืนตรงปกติ 10-15 นาที
- หาตัวช่วยอย่างแผ่นแปะคลายเส้น หรือสมุนไพร ผ่อนคลายแก้ปวดเมื่อยมาใช้บรรเทาอาการ
สรีระเท้าผู้ชายกับการใส่รองเท้าส้นสูง
สำหรับหนุ่มๆ หรือสาวๆ ที่มีสรีระเท้าแบบผู้ชาย และมีความใฝ่ฝันอยากสวมใส่รองเท้าส้นสูงผู้หญิง Tribe ขอสนับสนุนด้วยการยืนเคียงข้าง LGBTQ+ ทุกท่าน และยืนยันว่า ทุกคำแนะนำที่ได้บอกต่อไปในข้างต้น ทุกคนสามารถนำไปใช้ได้อย่างอิสระ ไม่เฉพาะกับผู้ที่มีสรีระร่างกายเป็นหญิงอย่างเดียว แต่ต้องระวังในการเลือกสวมใส่รองเท้าให้เหมาะสมกับทรงเท้าของตัวเอง หลีกเลี่ยงการบีบในช่วงปลายเท้า
และควรฝึกฝนการเดินด้วยส้นสูงเรื่อยๆ เริ่มแรกอาจฝึกจากส้นหนาไม่สูงแล้ว ค่อยลดขนาดส้นเพิ่มความสูงตามที่ตัวเองต้องการก็ได้จะเห็นว่า อินฟลูเอนเซอร์ชายในต่างประเทศก็เริ่มหยิบบูทส้นสูงมาแต่งตัวมากขึ้น แต่ที่สำคัญคือความมั่นใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครเราก็อยากให้ทุกคนมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองชอบและอยากสวมใส่ เพราะเราเชื่อว่าแฟชั่นไม่มีเพศ และไม่มีเรื่องถูกผิด
เป็นยังไงกันบ้างคะกับเทคนิคเลือกรองเท้าส้นสูงผู้หญิงที่ Tribe ได้นำมาฝากในบทความนี้หวังว่าจะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับสาวๆ ไม่มากก็น้อยน้าแต่ถ้าใครยังไม่มั่นใจว่า ควรจะเลือกรองเท้าส้นสูงแบบไหนให้เหมาะกับตัวเองมากที่สุด และใส่ได้สบายไม่มีเมื่อย แถมยังไม่สะดวกที่จะออกจากบ้านเดินทางไปลองรองเท้าส้นสูงด้วยตัวเอง สามารถปรึกษา หรือสั่งซื้อกับ Tribe ได้ตามช่องทางต่างๆ ที่ทุกคนสะดวกกันได้เลย
